นานาสาระ

เพราะมีจำกัด …จึงมีค่า คุณสมบัติที่ดีของสิ่งของที่มีคุณค่าอย่างเป็นเหตุเป็นผล

เพราะมีจำกัด …จึงมีค่า คุณสมบัติที่ดีของสิ่งของที่มีคุณค่าอย่างเป็นเหตุเป็นผล

คำว่า “มีจำกัด” หมายรวมถึง การผลิตได้ยากและปลอมแปลงไม่ได้ แล้วอะไรบ้างที่มีจำกัดบนโลกใบนี้

เศรษฐศาสตร์ง่ายๆ ซึ่งเริ่มต้นจากเรื่องอุปสงค์และอุปทานกับพฤติกรรมของมนุษย์ ทำให้เกิดคุณค่าของสิ่งของขึ้นมา หากเราย้อนกลับไปในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา มีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า “จตุคามรามเทพ” ที่ทุกวัดในประเทศไทยแห่กันผลิตออกมา จนแทบทุกบ้านสามารถมีไว้ใน ครอบครองได้ และสามารถขายได้ราคาแพง และเมื่อตลาดการซื้อขายกลับสู่ปกติ ก็เหลือจตุคามบางรุ่นเท่านั้นที่ยังมีราคา แต่ส่วนใหญ่มูลค่าหายไปกว่า 10,000% หมายถึงซื้อมา 100,000 บาท แต่ขายได้ 10 บาท

หรือหากย้อนไปเก่ากว่านั้น ก็คงจะเป็นวิกฤติฟองสบู่ครั้งแรกบนโลกใบนี้ ที่เรียกว่า “วิกฤตฟองสบู่ดอกทิวลิป” ที่ทุกคนต้องการ หัวทิวลิปเพื่อนำไปปลูกเพื่อแสดงฐานะทางการเงินของตนเอง ถึงขนาดที่ว่ามีสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อให้ได้ครอบครองหัวทิวลิป เมื่อ ความต้องการของมนุษย์ กลายเป็นการเก็งกำไร การใช้เข็มอันเล็กๆ ที่มีชื่อตรงกันข้ามกับความโลภนั่นคือ “ความกลัว” สุดท้ายตลาด ดอกทิวลิปก็ล่มสลายไป

แล้วอะไรบนโลกใบนี้ที่มีจำกัดบ้าง? หากมองในเรื่องเศรษฐศาสตร์เชิงอนุรักษ์นิยมเท่าที่อธิบายได้ตามหัวเรื่อง ก็คงจะมีเพียงทองคำ และที่ดินเท่านั้นที่เข้าข่ายกับคำว่า “มีจำกัด” จึงทำให้สองสิ่งนี้เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลา เท่าที่ผมทราบมา สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูระยอง จำกัด หลายๆ คนที่เป็นวัย Baby Boomer ที่เคยกู้เงินกับสหกรณ์เมื่อ 40 ปีที่แล้ว และนำไปซื้อที่ดิน เก็บไว้เป็นสินทรัพย์ มาวันนี้หลายๆ ท่านได้เห็นมูลค่าที่ก้าวข้ามผ่านเวลาว่าเป็นอย่างไร หรือแม้แต่คนที่ซื้อทองคำเก็บไว้เมื่อ 40 ปีที่แล้ว (ถ้าจำไม่ผิดทองคำบาทละ 400 บาท) วันนี้ได้เห็นทองคำในราคาบาทละ 40,000 บาท คำถามคือสินทรัพย์เหล่านี้มันแพงขึ้นเพราะอะไร?

ฝากคำถามให้สมาชิกได้ขบคิดกันว่า “เงินบาท” เป็นสิ่งที่ ผลิตได้จำกัดหรือไม่ ผลิตได้ยากหรือไม่ ปลอมแปลงได้หรือไม่? ในวันที่เราถูกเติมเงินเข้ามาในระบบเรื่อยๆ ผ่านนโยบายรัฐ เช่น เรารักกัน คนละครึ่ง หรือแม้กระทั่งเงินดิจิทัล และอัตราเงินเฟ้อแบบทบต้น ของประเทศไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 7% ต่อปี (โดยประมาณ)

แล้วคุณละ เชื่อว่าเงินเฟ้ออ่อนๆ ดีกับเศรษฐกิจไหม?

Posted by น้าหนวดไอที in การเงินการลงทุน, นานาสาระ
สหกรณ์ออมทรัพย์ครูระยอง จำกัด ที่พึ่งใกล้ตัวด้านการเงิน

สหกรณ์ออมทรัพย์ครูระยอง จำกัด ที่พึ่งใกล้ตัวด้านการเงิน

การประกอบอาชีพเสริมเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการวางแผนเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว และความมั่นคงทางการเงินหลังเกษียณอายุราชการ สำหรับมนุษย์เงินเดือนไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีเงินทุนในการประกอบกิจการ การเก็บออมรายเดือนก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะพอกับการลงทุน การมองหาแหล่งทุนที่เรามั่นใจว่าได้ประโยชน์สูงสุดในการดำเนินงานเป็นสิ่งจำเป็น สหกรณ์ออมทรัพย์ครูระยองนี่แหละที่ตอบโจทย์ได้มากที่สุด

เริ่มต้นด้วยการกู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูระยอง มาลงทุนทำสวนผลไม้ ปลูกขนุน เพราะเน้นผลไม้ที่ดูแลง่ายสามารถใช้เวลาช่วงเย็นหลังเลิกเรียน และวันหยุดในการดูแล ปลูกมังคุดและลองกองระหว่างต้นขนุน ตามด้วยทุเรียนปลูกผสมผสานกันไป ทุนที่นำมาใช้จ่ายก็ได้จากการกู้จากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูระยอง ปัจจุบันเหลือพืชหลักคือทุเรียนและมังคุด เป็นรายได้เสริมรายปีของครอบครัว

ต่อมาได้กู้เงินเพื่อซื้อที่ดินและปลูกผักสวนครัวหารายได้รายวันพอมีรายได้ใช้จ่ายในครัวเรือน เมื่อภารกิจในงานราชการเพิ่มมากขึ้นจึงเปลี่ยนจากพืชผักสวนครัวเป็นหอพัก และจากรายได้รายวันก็เปลี่ยนเป็นรายเดือน
การตัดสินใจในการกู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูระยองในวันนั้น ทำให้เรามีหลักฐานที่มั่นคงในวันนี้ จากอาชีพเสริมในการเริ่มต้นกลายมาเป็นอาชีพหลักหลังเกษียณ คิดและทำตามเป้าหมายที่กำหนด การเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องเสียหายหากเรามีวินัยในการใช้เงิน

นี่คือคำพูดของ ผอ.อัญชลี อิสรารักษ์ อดีต ผอ. โรงเรียนแกลง “วิทยสถาวร” อำเภอแกลง จังหวัดระยอง

Posted by น้าหนวดไอที in นานาสาระ, สายใยสหกรณ์
ส่งเสริมทักษะอาชีพจากกิจกรรม Zero Waste School สู่นักออมตัวน้อย โรงเรียนวัดสระแก้ว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ระยองเขต 1

ส่งเสริมทักษะอาชีพจากกิจกรรม Zero Waste School สู่นักออมตัวน้อย โรงเรียนวัดสระแก้ว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ระยองเขต 1

โรงเรียนวัดสระแก้ว ตั้งอยู่เลขที่ 33 หมู่ 3 ตำบลสำนักท้อน อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง

เปิดทำการสอนระดับอนุบาล 2 ถึง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีโครงการเด่น คือ โรงเรียนปลอดขยะ (Zero Waste School) ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2563 ได้ดำเนินโครงการธนาคารขยะ นักเรียนมีบัญชีการออมเงินจากการนำขยะจากทางบ้านมาขายทุกคน โดย นายสำเนา สำราญจิตร์ และนายสิทธิพงษ์ ธรรมมุทิศ เจ้าของโครงการเล่าให้ฟังว่า กิจกรรมต่อมาก็คือการแก้ปัญหาขยะในโรงเรียน โดยเฉพาะใบไม้เราจึงทำ “กิจกรรมปุ๋ยหมักรักษ์โลก”

โดยมีขั้นตอนการทำปุ๋ยดังนี้

1. ทำคอกขนาด 3×3 เมตร วางอิฐบล็อกก่อให้สูงขึ้นไป 7 ก้อน

2. นำเศษใบไม้ กิ่งไม้ หญ้า นำมาหมักทิ้งไว้ในคอก

3. เกลี่ยกองใบไม้ สูงราว 30 เซนติเมตร รดน้ำให้ชุ่ม แล้วเอาปุ๋ยคอกโรยทับให้ทั่วกัน สูง 5 เซนติเมตร ใส่สารเร่งซุปเปอร์ พด.1 ตามอัตราส่วนการใช้รดให้ทั่วทั้งแปลง สลับด้วยซากพืชแล้วรดน้ำทำเป็นชั้น ๆ

4. กลับกองปุ๋ยหมักทุก ๆ 30 วัน แล้วรดน้ำ และกลับปุ๋ยจนกว่าซากพืชจะเปื่อยผุหมดทั้งกอง ใช้ระยะเวลา 3-4 เดือน เป็นใช้ได้

การจำหน่ายปุ๋ยหมักช่วยสร้างเสริมรายได้สู่การออมเงินระดับห้องเรียนให้แก่นักเรียน คุณครูเล่าต่อว่า ได้ดำเนินต่อใน กิจกรรมปลูกข้าวโพดพันธุ์ราชินีทับทิมสยาม ของกิจกรรมชุมนุมซึ่งในปีแรกๆพ.ศ.2563 ที่ทดลองปลูกประสบปัญหา เช่น การเตรียมดิน เมล็ดพันธุ์ ลำต้นแคระแกรน เราจึงแก้ไขโดยนำปุ๋ยหมักของโรงเรียนมาปรับปรุงสภาพดิน ทำให้ได้ผลผลิตดีและสามารถนำไปจำหน่าย ในปี พ.ศ.2565 ได้ ส่วนวิธีการปลูกมีดังนี้

1. เตรียมดินโดยรถไถจากนั้นใส่ปุ๋ยหมัก ไถกลบตากดินประมาณ 7-10 วันแล้วไถแปรเพื่อย่อยดิน

2. เพาะเมล็ดพันธุ์ ในถาดหลุมเพาะ และใช้ผ้าบางคลุมประมาณ 2-3 วัน รดน้ำทุกวัน เมื่อผ่านไป 7-10 วัน ต้นกล้าเริ่มแตกใบเป็น 2-4 ใบ นำไปลงดินปลูกได้

3. ควรเว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 30 – 40 ซม. รดน้ำ วันละ 2 ครั้ง

4. ใส่ปุ๋ย บำรุงต้น ใช้สูตร 16-16-16 ในช่วง 2 สัปดาห์หลังลงแปลงปลูก ช่วงอายุข้าวโพด 30 วัน ใส่ปุ๋ยสูตร (21-0-0) และใส่อีกครั้งช่วงอายุข้าวโพดได้ 40 วัน

5. หมั่นถอนวัชพืช และเฝ้าระวังศัตรูพืช

6. เมื่อมีอายุประมาณ 65 – 70 วัน โดยสังเกตเส้นไหมของข้าวโพดที่แห้งและความแน่นของฝักข้าวโพดจึงเก็บผลผลิตได้

ท่าน ผอ.ภัสนันท์ กล่าวว่า “กิจกรรมต่างๆ ช่วยสร้างรายได้ระหว่างเรียน ส่งเสริมการออมตั้งแต่เยาว์วัย เด็กๆมองเห็นคุณค่าที่มาของเงิน เป็นกิจกรรมที่ประสบความสำเร็จ มีความต่อเนื่องและยั่งยืน นักเรียนฝึกการจำหน่ายผลผลิตในชุมชนและจำหน่ายทางออนไลน์ โดยการนำเสนอและประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทาง Facebook Page ของโรงเรียน ช่วยปลูกฝังให้นักเรียนมีทักษะอาชีพ รักษ์สิ่งแวดล้อมที่บ้านและโรงเรียน ส่งผลต่อการนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตในอนาคต และโรงเรียนยังได้รับรางวัลโครงการโรงเรียนปลอดขยะ (Zero Waste School) ระดับดีมาก จากกรมส่งเสริมสิ่งแวดล้อม ประจำปี 2565-2566 ด้วย ท่านผอ.ยิ้มและกล่าวทิ้งท้ายด้วยความภาคภูมิใจ”

Posted by น้าหนวดไอที in นานาสาระ, เลาะรั้วโรงเรียน
การทำความเข้าใจและทำนายแนวโน้มเงินเฟ้อด้วยกราฟปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2

การทำความเข้าใจและทำนายแนวโน้มเงินเฟ้อด้วยกราฟปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2

ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 คืออะไร?

ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 เป็นมาตรวัดที่กว้างของเงินที่หมุนเวียนภายในเศรษฐกิจ รวมถึงเงินสดที่มีอยู่จริง เงินฝากในบัญชีกระแสรายวัน บัญชีออมทรัพย์ และเงินฝากประจำขนาดเล็ก ซึ่งต่างจาก M1 ที่รวมเพียงเงินสดและเงินฝากในบัญชีกระแสรายวัน M2 ให้ภาพรวมที่ครอบคลุมมากขึ้นของสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องในเศรษฐกิจ มุมมองที่กว้างนี้ทำให้ M2 เป็นตัวชี้วัดสำคัญในการทำความเข้าใจและทำนายแนวโน้มเงินเฟ้อ

ทำไมปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 ถึงสำคัญ?

ภาพรวมที่ครอบคลุมของเศรษฐกิจ ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 รวมสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องหลายประเภท ซึ่งให้ภาพรวมที่สมบูรณ์มากขึ้นของเงินที่มีอยู่สำหรับการใช้จ่ายและการออม ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีค่าสำหรับการวิเคราะห์สุขภาพเศรษฐกิจและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ

ตัวชี้วัดเงินเฟ้อ การเติบโตอย่างรวดเร็วของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 มักเป็นสัญญาณของการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อาจนำไปสู่เงินเฟ้อหากเกินกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจ ข้อมูลประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ การเติบโตของ M2 บางครั้งเกินกว่า 10% ซึ่งบ่งบอกถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่สำคัญ

ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับเงินเฟ้อ ความสัมพันธ์ระหว่างการเติบโตของ M2 กับเงินเฟ้อไม่ได้ตรงไปตรงมาหรือเกิดขึ้นทันที ปัจจัยเช่นความเร็วในการหมุนเวียนของเงิน (ความเร็วที่เงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจ) และศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ไม่ได้ใช้สามารถชดเชยผลกระทบของการขยายตัวของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบได้

บริบททางประวัติศาสตร์สำหรับแนวโน้มปัจจุบัน การวิเคราะห์กราฟปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 ช่วยให้นักเศรษฐศาสตร์สามารถเปรียบเทียบอัตราการเติบโตล่าสุดกับรูปแบบในอดีต ช่วยให้สามารถระบุได้ว่าแนวโน้มปัจจุบันเป็นเรื่องปกติหรือยั่งยืนหรือไม่ บริบททางประวัติศาสตร์นี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำนายอนาคตของเงินเฟ้ออย่างมีข้อมูล

คุณค่าทางการทำนาย แม้ว่ากราฟปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 จะไม่ใช่ตัวทำนายที่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าเกี่ยวกับการขยายตัวของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเงินเฟ้อ การทำความเข้าใจแนวโน้มเหล่านี้ช่วยให้ผู้กำหนดนโยบายและนักเศรษฐศาสตร์ตัดสินใจได้ดีขึ้นในการจัดการกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ

วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2

เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 อย่างมีประสิทธิภาพ ทำตามขั้นตอนดังนี้

รวบรวมข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ รับข้อมูลปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 จากธนาคารกลางหรือเว็บไซต์การเงินที่น่าเชื่อถือ

ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ ใช้เครื่องมือเช่น Excel เพื่อสร้างกราฟและวิเคราะห์แนวโน้มในปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 การวิเคราะห์นี้ช่วยให้คุณเข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงในปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบอาจส่งผลต่อเงินเฟ้ออย่างไร

เปรียบเทียบข้อมูลในอดีตและปัจจุบัน ตรวจสอบอัตราการเติบโตของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 ในช่วงเวลาต่าง ๆ การเปรียบเทียบข้อมูลในอดีตและปัจจุบันช่วยให้คุณสามารถระบุรูปแบบและประเมินว่าอัตราการเติบโตล่าสุดบ่งบอกถึงแนวโน้มเงินเฟ้อที่เป็นไปได้หรือไม่ การเปรียบเทียบนี้มีความสำคัญในการทำความเข้าใจสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันและการทำนายอย่างมีข้อมูล

การเข้าใจรายละเอียดของปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 และความสัมพันธ์กับเงินเฟ้อสามารถช่วยให้นักเศรษฐศาสตร์และผู้กำหนดนโยบายมีเครื่องมือที่จำเป็นในการรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการเฝ้าระวังแนวโน้มของ M2 อย่างใกล้ชิด พวกเขาสามารถคาดการณ์แรงกดดันด้านเงินเฟ้อและดำเนินมาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

Posted by น้าหนวดไอที in การเงินการลงทุน, นานาสาระ
รู้จักกับ … สันนิบาตสหกรณ์จังหวัดระยอง

รู้จักกับ … สันนิบาตสหกรณ์จังหวัดระยอง

สันนิบาตสหกรณ์จังหวัดระยอง เป็นองค์กรเครือข่ายแห่งความร่วมมือและสร้างสัมพันธ์ระหว่างสหกรณ์ทุกประเภทในจังหวัดระยอง ซึ่งมีมากกว่า 80 สหกรณ์ จัดตั้งขึ้นตามระเบียบของสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์ในการร่วมมือช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างสหกรณ์ต่างๆทั้งในด้านวิชาการ ด้านการดำเนินธุรกิจ ด้านกฎหมาย ฯลฯ การดำเนินกิจกรรมได้รับงบประมาณสนับสนุนบางส่วนจากสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ขณะนี้ตั้งสำนักงานอยู่ที่ชั้นล่างของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูระยอง จำกัด

ถึงแม้เป็นองค์กรน้องใหม่ของจังหวัด แต่ก็ได้ดำเนินกิจกรรม สืบเนื่องโดยการดำเนินงานของคณะกรรมการที่มาจากสหกรณ์ต่างๆ ทุกประเภท ทั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์ประมง สหกรณ์บริการ สหกรณ์เครดิตยูเนียนและสหกรณ์นิคม โดยปีที่ผ่านมาได้จัดอบรมหลักสูตรผู้ตรวจสอบกิจการโดยได้รับอนุมัติหลักสูตรจากกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และ และกำลังจะจัดอบรมคณะกรรมการดำเนินการและผู้จัดการในวันที่ 20 – 21 เมษายน 2567 ขณะนี้กำลังดำเนินการจัดตั้งสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สันนิบาตสหกรณ์จังหวัดระยอง เพื่อเปิดรับสมาชิกของสมาคมจากสมาชิกสหกรณ์ทุกประเภทในจังหวัดระยอง ซึ่งรวมทั้งสมาชิกจากสหกรณ์ออมทรัพย์ ครูระยอง จำกัด ของเราด้วยขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งสมาคม

นับเป็นครั้งแรกของระยองครับ ที่สหกรณ์ทุกแห่งได้มีโอกาสร่วมมือช่วยเหลือและสร้างสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน

Posted by น้าหนวดไอที in นานาสาระ
เราพร้อมแค่ไหน … กับระบบรักษาความปลอดภัยทางการเงิน

เราพร้อมแค่ไหน … กับระบบรักษาความปลอดภัยทางการเงิน

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา กระแสการลงทุนทางด้านการเงินกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง หลายๆสถาบันการเงิน ทั้งผู้เล่นหลัก อย่างธนาคาร หรือ Online Financial Platform รวมไปถึงกลุ่ม Crypto Currency Exchange ที่สร้างระบบขึ้นมาเพื่อระดมเงินจากนักลงทุนจากทั่วโลก ซึ่งความน่าสนใจจะอยู่ที่การให้บริการในการรักษาความปลอดภัย ที่ทุกๆ ผู้ให้บริการจะคิดวิธียืนยันตัวตนสำหรับลูกค้าของตนเอง ตั้งแต่กระบวนการสมัครใช้บริการ การยืนยันตัวตน การเข้า ใช้งาน รวมไปถึงการฝากและการถอน ซึ่งถือเป็นโลกใบใหม่ที่มีความซับซ้อนเป็นอย่างมากแน่นอนว่า แตกต่างจากประเทศไทยโดยสิ้นเชิง

ความแตกต่างนั้นอาจเกิดจากการแข่งขันทางการตลาด จึงกล้าที่จะหละหลวมในการสร้างเงื่อนไขการใช้งาน บางผู้ให้บริการยินยอม ที่จะให้ลูกค้าตั้งรหัสผ่านง่ายๆ เช่น 123456 หรือ 123123 และมีเพียงการยืนยันการเข้าระบบเพียงชั้นเดียวเท่านั้น เหตุเพราะกลัวว่า ถ้าระบบหรือ Application ของตนเองใช้งานยาก จะทำให้เสียลูกค้าและหนีไปหาคู่แข่งหรือเปล่าก็ไม่สามารถทราบได้

ในโลกใบใหม่ของการรักษาความปลอดภัยในสินทรัพย์ไม่ว่า จะเป็นเงินฝาก การลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ กองทุนรวม หรือแม้แต่ Crypto Currency ของเมืองนอกนั้น ผู้ให้บริการจะเสนอบริการการดูแลสินทรัพย์ผ่านการยืนยันหลายขั้นตอน ทั้งนี้ลูกค้าสามารถ เลือกได้ว่าตนเองจะเลือกระดับรักษาความปลอดภัยสูงสุดได้อย่างไร พร้อมมีข้อตกลงพ่วงท้ายหากลูกค้ากระทำการโดยประมาทเอง และทางผู้ให้บริการจะไม่รับผิดชอบใดๆ
ยกตัวอย่างเช่น การเข้าใช้ Application ถ้าเป็นของธนาคาร สมาชิกใช้แค่เพียงตัวเลข PIN Code 6 หลักในการทำธุรกรรมทั้งหมดภายใน App ในขณะที่ผู้ให้บริการเมืองนอกนั้น

  • จะขอ OTP ผ่านเบอร์โทรศัพท์ก่อนเข้าใช้งาน … และ
  • ขอยืนยัน OTP จาก Email … และ
  • ขอรหัสการยืนยัน 2 ขั้นตอนจากระบบ 2FA ที่เราได้ลงทะเบียน

ตัวอย่างหน้าจอแอพของผู้ให้บริการในเมืองนอก

ความยุ่งยากเหล่านี้ เป็นตัวเลือกสำหรับลูกค้าว่าจะนำมาใช้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับบัญชีของตนเองหรือไม่ และเมื่อลูกค้า ไม่เลือกใช้ระบบความปลอดภัยดังกล่าว จึงเป็นที่มาของการถูกโจรกรรม ทางข้อมูลแบบน้ำตื้น หมายถึง ไม่ใช่การถูกเจาะระบบ แต่เป็นการ “เผลอ” เช่น เผลอบอกรหัสผ่านให้กับมิจฉาชีพ เผลอบอกที่อยู่ Email พร้อมกับรหัสผ่าน เผลอติดตั้ง App ปลอมลงสู่เครื่องมือถือ หรือมิจฉาชีพบอกให้ Scan ใบหน้า ก็ยังทำตามโดยไม่เอะใจ และอีกหลายๆการเผลอที่เหยื่อได้กระทำ และเล่าไม่หมดว่าทำอะไรมาบ้าง เพราะฉะนั้น “ความรู้เท่าไม่ถึงการ” สามารถเอาชนะด้วย “การศึกษาหาความรู้” เพื่อเพิ่มเกราะป้องกันให้กับเรา

ภาพที่ผมไม่อยากเห็นคือ ข้าราชการที่เกษียณอายุได้รับเงินตอนเกษียณ เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต มีเงินหลายล้านบาท แต่กลับต้องมาโดนโจรกรรมทางข้อมูล และเอาเงินก้อนสุดท้ายของชีวิต ของเขาไปทั้งหมด

สิ่งที่ผมอยากวอนขอสมาชิก โดยเฉพาะสมาชิกที่เป็นข้าราชการบำนาญ พยายามเรียนรู้ ทำความเข้าใจ กับเรื่องเทคโนโลยี เหมือนในวันแรกๆที่ท่านพยายามจะเล่น LINE หรือ Facebook พยายามทำความเข้าใจว่า มือถือที่เราซื้อมาเครื่องละหลายหมื่นนั้น ทำอะไรได้บ้าง สามารถสร้างความปลอดภัยให้เราได้อย่างไร ใช้อย่างไรถึงจะปลอดภัย รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับ Email เบอร์มือถือ รหัสผ่านต่างๆ จดและเก็บในที่ลับทุกครั้ง และไม่หลงเชื่อใครโดยง่าย

ถ้าสมาชิกทุกท่านใส่ใจกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสหกรณ์ในการที่จะพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยให้เท่าทันกับโลกยุคใหม่

 

 

Posted by น้าหนวดไอที in นานาสาระ
Image Creator โดย Microsoft Bing สร้างรูป AI แบบง่ายๆ  รองรับภาษาไทยด้วยนะ!

Image Creator โดย Microsoft Bing สร้างรูป AI แบบง่ายๆ รองรับภาษาไทยด้วยนะ!

Image Creator โดย Microsoft Bing สร้างรูป AI แบบง่ายๆ รองรับภาษาไทยด้วยนะ

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะสอนการใช้งาน Image Creator จาก Microsoft Bing กันนะครับ สำหรับเจ้า AI ตัวนี้ พื้นฐานสถาปัตยกรรมและ Logic ถูกนำมาจาก DALL-E ของ OpenAI นำมาผนวกกับฐานข้อมูลของ Microsoft จึงได้ Generative AI ตัวนี้ขึ้นมา

โดยส่วนตัวผมมองว่า AI ตัวนี้สามารถสามารถสร้างภาพได้ตามจินตนการของเราเท่าที่เราจะคิดออกมาได้ครับ คำสั่งไม่ยุ่งยาก คิดอะไรในหัวก็อธิบายออกมาเป็นภาพได้เลย แต่ถึงแม้กระนั้นก็ยังขาดความสมจริงไปบ้าง ซึ่งไม่เหมือนกัน Midjourney AI ที่ตอนนี้สามารถสร้างภาพออกมาและเราแทบแยกไม่ออกแล้วว่าอะไรจริง อะไรเท็จ

เริ่มต้นการใช้งานต้องมี Email ของ Microsoft ก่อน

1. ให้สมาชิกสมัครใช้บริการ Email ของ Microsoft ที่นี่ : https://www.microsoft.com/th-th/microsoft-365/outlook/email-and-calendar-software-microsoft-outlook

โดยกดที่คำว่า “สร้างบัญชีฟรี” แล้วดำเนินการตามที่หน้าจอร้องขอทีละขั้นตอน

2. เมื่อสร้างบัญชีเสร็จเรียบร้อยแล้วให้จดชื่อ Email Adress และ Password ของท่านเก็บไว้

ดาวน์โหลด Bing ลงเครื่องมือถือ พร้อมสร้างรูปด้วย AI

โดยค้นหาจาก Store ที่ท่านใช้งานอยู่ หรือตาม Link ด้านล่างนี้

App Store : https://apps.apple.com/us/app/bing-chat-with-ai-gpt-4/id345323231

Play Store : https://play.google.com/store/search?q=Bing&c=apps&hl=en&gl=US

หลังจากที่ติดตั้ง App ลงเครื่องแล้ว ให้ทำการ Login ใน Bing ด้วยบัญชี Email ที่ได้สมัครไว้

เมื่อทำการลงทะเบียนเข้าใช้งานแล้วจะพบหน้าจอนี้

ให้แตะที่มุมขวาล่าง ที่คำว่า App นะครับ

จากนั้นจะพบกับหน้าจอนี้ ให้หาคำว่า Image Creator

แตะที่คำว่า Image Creator แล้วจะเจอกับหน้านี้ ก็สามารถใช้งานได้แล้วครับ โดยเราสามารถใช้ได้วันละ 15 ครั้ง และที่สำคัญคือห้ามกรอกเนื้อหาในลักษณะ 18+ หรือความรุนแรงมากเกินไป หากโดนเตือนบ่อยก็จะถูกระงับการใช้งานทันที

ตัวอย่างการใช้คำเพื่อสร้างรูปภาพด้วย AI

“ผัดคะน้าหมูกรอบ ใส่ไอศกรีมช็อคโกแลต ราดด้วยคาราเมล อยู่บนโต๊ะอาหาร ภาพถ่ายสมจริง ถ่ายด้วยกล้อง DSLR”

“เด็กผู้ชายไทยใส่ชุดเกราะหุ่นยนต์ บินอยู่ในอวกาศ ใกล้ blackhole สีหน้าตื่นเต้น ภาพถ่ายสมจริง”

“ชายใส่ชุดเกราะลิง หนุมาน สีขาวแดง ล้ำยุค ทำสงครามกับหุ่นยนต์ยักษ์สีเขียว ภาพการ์ตูนแนวญี่ปุ่น”

“spiderman ใส่ชุดนักรับไทยโบราณ ถือดาบขนาดใหญ่ ต่อสู้กับ Thanos ใส่ชุดไทยโบราณ ภาพวาดไทยโบราณ ภาพวาดฝาผนังแบบไทย”

และนี่คือตัวอย่างของความสามารถใน Generative AI ตัวนี้ อาจจะตรงตามความต้องการ หรือไม่ตรงบ้าง เราต้องปรับแก้คำ หรือที่เรียกว่า Prompt กันเองนะครับ

ฝึกฝนบ่อยๆก็ได้ภาพสวยๆเอามาใช้ประกอบงานสอนได้เลยนะครับ

 

 

Posted by น้าหนวดไอที in นานาสาระ
GPF PODCAST เป็นข้าราชการ อยากจับเงินล้านในยามเกษียณ ไม่ใช่เรื่องยาก

GPF PODCAST เป็นข้าราชการ อยากจับเงินล้านในยามเกษียณ ไม่ใช่เรื่องยาก

เป็นข้าราชการ อยากจับเงินล้านในยามเกษียณ ไม่ใช่เรื่องยาก

สำหรับบทความนี้ เราจะพามาแนะนำช่อง Youtube ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้าราชการครูโดยตรง และเป็นหน่วยลงทุนที่แข็งแกร่งของข้าราชการไทยมาอย่างช้านาน แล้วท่านจะพบว่าเรื่องการลงทุนสำหรับข้าราชการครู ไม่ใช่เรื่องไกลตัวครับ

สิ่งหนึ่งที่น่าตกใจ เมื่อผมได้เข้าไปรับชมรับฟังคลิปและ Podcast ของทางกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือที่เรียกสั้นๆว่า “กบข.” เมื่อเทียบสัดส่วนจากอัตรากำลังของข้าราชการไทย สำหรับช่องนี้ถือว่าอัตราในการรับชมที่น้อยมาก อาจเป็นเพราะมุมมองต่อเรื่องการลงทุนและข้าราชการนั้น หลายๆคนรู้สึกว่า เป็นเรื่องที่ไกลตัวเกินไป และ ได้สอบถามหลายๆท่าน ก็ไม่รู้สึกว่า กบข. เป็นเรื่องการลงทุน ยิ่งไปกว่านั้นข้าราชการหลายๆคน ยังมีทัศนคติที่เป็นลบต่อ กบข. เพราะเขา หักเงินของข้าราชการในทุกๆเดือน และไม่ทราบว่าเงินที่ถูกหักไป เอาไปใช้ทำอะไร จะก่อเกิดผลประโยชน์ต่อตนเองอย่างไร ถ้าไม่ส่งเงินไปให้ กบข. จะได้ไหม

ในเรื่องของ กบข. นั้น แทบจะไม่แตกต่างกับกลุ่มกองทุนของบริษัทเอกชนที่เรียกว่า กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ แถมมีแต้มต่อคือ รัฐบาลช่วยสมาชิกได้ออมเพิ่มอีก 3% อีกด้วย หากมองในมุมการลงทุนนั้น ถ้าท่านไม่ชอบความผาดโผน และเลือกออมเงินกับแผนการลงทุน แบบปกติ นั่นหมายถึงแค่เงินที่ กบข. หักจากเงินเดือนท่านและ เงินสมทบของภาครัฐ 3% หากท่านทำงาน ไปสัก 15 ปี ผลตอบแทนที่เรียกว่า “ดอกเบี้ยทบต้น” ก็จะผลิดอกออกผลอย่างมหาศาล หรือหากท่านมีความรู้ในเรื่องการลงทุน ลงในแผนความเสี่ยงกลางที่ กบข. จะนำไปลงทุนในตราสารทุนด้วย ท่านก็อาจจะได้รับผลตอบแทนที่ มากกว่าข้าราชการที่ลงแผนการลงทุนแบบธรรมดา ซึ่งเป็นปกติของการลงทุนที่เรียกว่า “High Risk High Expected Return”

ส่วนตัวในมุมมองของผมนั้น แค่ลงทุนในแผนการลงทุน แบบธรรมดา + ออมเงินในสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ผลตอบแทนที่ท่านได้รับถือว่ามากกว่าประชาชนในสาขาอาชีพอื่นเป็นอย่างมากนะครับ โดยที่ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงในเรื่องความผันผวนของการลงทุนเอง

ติดตามเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ : https://www.youtube.com/@gpf1179

Posted by น้าหนวดไอที in การเงินการลงทุน, นานาสาระ
เงินเสื่อมค่า? หรือข้าวปลาอาหารแพงขึ้นจริงๆ

เงินเสื่อมค่า? หรือข้าวปลาอาหารแพงขึ้นจริงๆ

ในปี 2566 เราได้พูดคุยเรื่องเงินในวารสารประชาสัมพันธ์ กันอย่างเข้มข้น (เกือบทุกเล่ม) ซึ่งถามว่า “ทำไมเราควรจริงจัง กับเรื่องเงินๆทองๆ” เหตุผลหลักก็น่าจะเป็นเรื่องสืบเนื่องจาก การระบาดของโรคโควิด 19 ซึ่งจะนำพาเศรษฐกิจโลกไปสู่ทางตัน

เมื่อเกิดปัญหาเศรษฐกิิจทั่วโลก จุดวัดใจที่สำคัญที่หนีไม่พ้นเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐของแต่ละประเทศ ว่าจะออกมาใน รูปแบบไหน เพื่อให้รัฐบาลพยายามคงสภาพตัวเลขทางเศรษฐกิจ ได้อย่างสวยงาม ยกตัวอย่างเช่น PPI ,CPI, GDP ซึ่งเมื่อเชื่อมโยง ความสัมพันธ์กับประชาชนจริงๆแล้วกลับพบว่า แทบจะแตกต่างกัน โดยสิ้นเชิง

วิธีคิดง่ายๆว่าอะไรจะเสื่อมค่าหรือไม่นั้น นอกจากการคงสภาพความใหม่หรือเก่าของวัตถุชิ้นนั้น ก็ยังมีปัจจัยในเรื่องของ “การผลิต” ที่เราคุ้นเคยกันดีอย่างคำว่า Limited Edition พอมีคำนี้พ่วงมา ในสินค้าชนิดใด ราคามักจะแพงกว่าปกติเสมอ แม้แต่เงินตราที่ผลิต ออกมามีลวดลายแตกต่างจากท้องตลาดก็ราคาแพงกว่าตัวเลขที่ระบุ อยู่บนธนบัตร

ในยุคหนึ่งเราเคยใช้เบี้ยใช้เปลือกหอยในการเป็นสื่อกลาง การแลกเปลี่ยน แต่เมื่อโลกรู้จักการประมง เปลือกหอยก็หมดคุณค่า หรือการล่มสลายของเงินชนิดหนึ่งที่น่าเศร้าบนโลกใบนี้ เช่น “ลูกปัดอักกรี” ครั้งหนึ่งลูกปัดอักกรีนั้นเคย ถูกใช้เป็นเงินในแอฟฟริกาตะวันตกมานาน เป็นสิ่งมีค่าที่ถูกยอมรับภายในท้องถิ่นนั้น แต่เมื่อชาวยุโรปที่มีเทคโนโลยีที่สามารถผลิตลูกปัดได้อย่างไม่จำกัด จึงนำลูกปัดนี้เข้าสู่แอฟฟริกาใต้ และสามารถกว้านซื้อทรัพยากรต่างๆของแอฟฟริกาได้อย่างไม่จำกัด เช่นกัน เมื่อลูกปัดอักกรี สิ่งที่เคยได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมีค่า สามารถเก็บออมเพื่อรักษาความมั่งคั่งของผู้ที่ทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำ เพื่อแลกค่าตอบแทนเป็นลูกปัด วันหนึ่งกลับสูญสิ้นมูลค่าเพราะลูกปัดที่ถูกผลิตได้อย่างไม่จำกัด ของชาวยุโรป

สิ่งสุดท้ายที่พวกเขาจะพอขายเพื่อนำเงินมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องให้ประทังชีวิตไปได้นั่นก็คือ “ชีวิตของพวกเขาเอง” นั่นจึงเป็นที่มาของ “ลูกปัดทาส” นั่นเอง
เมื่อมองเปรียบเทียบนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่แจกจ่าย “เงิน” ของทุกรัฐบาลบนโลกใบนี้ เราจึงชวนตั้งคำถามอยู่เรื่อยๆว่า นโยบายประชานิยม หรือ สวัสดิการ ผ่านการแทรกแซงระบบการเงิน มาอย่างช้านานกำลังส่งผลอย่างไร?

และจริงๆแล้ว สินค้าอุปโภค บริโภคราคาแพงขึ้น หรือ เงินของเรากำลังเสื่อมค่ากันแน่ แล้วคุณคิดว่า เรากำลังใช้ “ลูกปัดทาส” กันอยู่หรือเปล่า?

Posted by น้าหนวดไอที in นานาสาระ
วิถีไทย วิถีพุทธ – สืบสานวัฒนธรรม ร่วมใจ ใส่ชุดไทย ใส่บาตร พระ 3 รูป ทุกวันเสาร์ ณ วัดป่าประดู่ พระอารามหลวง

วิถีไทย วิถีพุทธ – สืบสานวัฒนธรรม ร่วมใจ ใส่ชุดไทย ใส่บาตร พระ 3 รูป ทุกวันเสาร์ ณ วัดป่าประดู่ พระอารามหลวง

สังคมไทยปัจจุบันมีความสับสนวุ่นวาย ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องแสวงหาที่พึ่งทางใจ โดยเฉพาะคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธ นิยมไปทำบุญที่วัด ตักบาตร ถวายภัตตาหาร แด่พระสงฆ์ ฟังพระธรรมเทศนา รักษาศีลเจริญจิตภาวนาเพื่อเสริมสร้างสิริมงคล ความสงบสุขร่มเย็นแก่ตนเองและครอบครัว และมีความเชื่อว่าเมื่อได้ทำบุญแล้ว บุญนั้นจะหนุนนำให้พบเจอแต่สิ่งดีงาม

ท่านพระครูโสภิตปัญญากร เจ้าคณะอำเภอเมืองระยอง เจ้าอาวาสวัดป่าประดู่ พระอารามหลวง ได้รับการบอกกล่าวจากญาติโยมที่ทำงานประจำหลายคนว่า ต้องการเข้าวัดทำบุญ ตักบาตร ฟังเทศน์ฟังธรรมบ้าง แต่เวลาและโอกาสไม่อำนวย ท่านจึงได้ จัดทำโครงการวิถีไทย วิถีพุทธ โดยให้นำอาหารคาวหวานหรือข้าวสารอาหารแห้งมา ใส่บาตร พระ 3 รูป ทุกวันเสาร์ เวลา 7.30 น. ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของญาติโยมมาก เพราะนอกจาก ได้ทำบุญอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ยังมีส่วนร่วมในการสืบสานวัฒนธรรม อันดีงามของไทย โดยทั่วกันอีกด้วย

ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนชาวสหกรณ์ออมทรัพย์ ครูระยอง จำกัด ทุกท่านร่วมกิจกรรมดีมีคุณค่าที่วัดป่าประดู่พระอารามหลวง จังหวัดระยองกันนะคะ

“ทำบุญสุขใจ ได้อนุรักษ์ผ้าไทยไปด้วยกัน”

Posted by น้าหนวดไอที in นานาสาระ
เงินคืออะไร? กับหนังสือ 4 เล่ม ที่สมาชิกควรอ่าน

เงินคืออะไร? กับหนังสือ 4 เล่ม ที่สมาชิกควรอ่าน

หนังสือ The Bitcoin Standard และ The Fiat Standard

จะเป็นเล่าถึงประวัติศาสตร์การเงินของโลกใบนี้ ผ่านมุมมองของเศรษฐศาสตร์สำนัก Classical หรือ Austrian ซึ่งใช้แนวคิดเสรีนิยมและการกระจายอำนาจ โดยจะชี้ให้เห็นความเป็นมาของจุดกำเนิดของเงิน จนมาถึงระบบเงินตรา (เงินที่ถูกตราด้วยรัฐ)

ความสนุกของหนังสือสองเล่มนี้หากอ่านต่อเนื่องกันเราจะได้เข้าใจความเป็นของคำว่า “เงิน” แท้จริงแล้วคืออะไร และทำไมรัฐบาลจึงพยายามที่จะควบคุมและแทรกแซงนโยบายทางการเงิน ทำไมอำนาจการจัดจับใช้สอยของเราจึงถูกลดทอนลงไปเรื่อยๆ เงินเฟ้อเพราะอะไร และการกำเนิดของ Bitcoin นั้นจะมาสู่การแก้ปัญหาของโลกใบนี้ ได้อย่างไร ทำไมจึงมีคนจำนวนหนึ่งศรัทธาใน Bitcoin และเรียกสินทรัพย์ชนิดนี้ว่า “ทองคำ Digital”

สำหรับหนังสือ The Bitcoin Standard ฉบับแปลไทยนั้นมีวางขายแล้ว The Fiat Standard นั้นต้องอดใจรอกันอีกสักนิดนะคะ

หนังสือ Layered Money พีระมิดเงินซ้อนชั้น

หากท่านได้อ่านหนังสือ สองเล่มด้านบนที่ได้กล่าวมา หนังสือเล่มนี้คือการขยายความของ “เงิน” ได้อย่าง ยอดเยี่ยม เพราะหนังสือเล่มนี้จะอธิบายคุณค่าของเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ว่าสุดท้ายชีวิตเราที่ลำบากตรากตรำทำงาน เพื่อให้ได้ค่าตอบแทนที่เรียกว่าเงินนั้น โดยแท้จริงแล้วคืออะไร และเมื่อเราได้ค่าตอบแทนมาแล้ว เราควรเก็บไว้ที่ไหนถึงจะไม่เสื่อมค่า โดยจะอธิบายผ่านคุณลักษณะของสินทรัพย์ต่างๆ เช่น ทองคำ เงินสกุลดอลลาร์ Bitcoin และสิ่งกำลังจะเข้ามาแทนที่เงินตราของรัฐบาลทั่วโลก นั่นคือ CBDC หรือ Central Bank Digital Currency หรือเงินรัฐบาลดิจิทัล เช่นประเทศไทยที่กำลังเตรียมตัวคลอด “เงินบาทดิจิทัล” ชวนให้ตั้งคำถามว่าเราควรจะเข้าร่วมหรือต่อต้านระบบนี้ เพื่อแลกกับความสะดวกสบาย

หนังสือ Inventing Bitcoin

หนังสือเป็นหนังสือที่อ่านยากสักเล็กน้อย เนื่องจากผู้อ่านจำเป็นต้องมีความเข้าใจในเรื่องระบบคอมพิวเตอร์ (บ้าง) เพราะจะนำมาสู่พื้นฐานและหลักการทำงาน ของ Bitcoin ว่ามีหลักการทำงานอย่างไร? ทำไมผู้ที่ศรัทธาในระบบ Bitcoin จึงเลือกที่เปลี่ยนเงินที่ตราโดยรัฐบาลและนำมาเก็บในรูปแบบ Bitcoin

โดยจะมีการอธิบายหลักการทำงานต่างๆของ Bitcoin เช่น ระบบ Proof of Work นั้นคืออะไร? ต่างจาก Proof of Stake อย่างไร? ทำไม Bitcoin จึงไม่สามารถถูกแทรกแซงจากรัฐบาลทำไม Bitcoin จึงถูก Hack ไม่ได้ อะไรคือความแข็งแกร่งของ Bitcoin ที่ทำให้อยู่รอดมาแล้ว 13 ปี และแท้จริงแล้ว Bitcoin เป็นเงินในอากาศ หรือเงินที่ถูกตราโดยรัฐบาลที่มีอำนาจในการขับเคลื่อนนโยบายการเงิน ที่สามารถพิมพ์เงิินออกมาและสร้างหนี้โดยไม่จำกัด โดยไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกันพร้อมขยายเพดานหนี้ไปเรื่อยๆ นั้นคือ “เงินในอากาศ” กันแน่ เพราะเงินที่สร้างยาก จะคู่ควร แก่การเก็บออม สามารถก้าวข้ามผ่านกาลเวลา เพื่อส่งมอบมูลค่าให้แก่ลูกหลานในอนาคตได้

Posted by น้าหนวดไอที in การเงินการลงทุน, นานาสาระ
มิจฉาชีพออนไลน์ และโลกจะไม่หมุนย้อนกลับหลัง

มิจฉาชีพออนไลน์ และโลกจะไม่หมุนย้อนกลับหลัง

รู้เท่าทันภัยไซเบอร์ เพื่อความปลอดภัยทางการเงิน

ในยุคที่เทคโนโลยีกำลังพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทุกครั้งที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ มิจฉาชีพคือกลุ่มบุคคลที่สามารถเรียนรู้ และใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านั้นได้รวดเร็วกว่าเสมอ

หากมองย้อนไปในช่วงกำเนิดเทคโนโลยีที่เรียกว่า Internet ในวันที่เราสามารถเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศได้อย่างไร้ขอบเขต ซึ่งเราจะเห็นว่า มีคนตกเป็นเหยื่อจากมิจฉาชีพมากมาย ทั้งเรื่องการ Hack ข้อมูล หรือ Phishing ข้อมูล (ระบบความปลอดภัยยุคนั้นไม่ได้ดีเหมือนยุคนี้) แม้ปัจจุบันก็ยังมีคนที่ตกเป็นเหยื่ออยู่อย่างมากมาย แม้ว่าระบบรักษาความปลอดภัย จะแน่นหนาเท่าไรก็ตาม

ปัจจัยสำคัญของการกลายเป็น “เหยื่อ” โดยหลักแล้วคือ “ความไม่รู้” ตามพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยแต่ละบุคคลนั้นจะมีอัตราการยอมรับนวัตกรรม ไม่เท่ากัน ตั้งแต่ผู้เรียกตนเองว่า Innovator อะไรมาใหม่ ฉันต้องกระโดดเข้าไปใส่ก่อน เดี๋ยวจะตกกระแส จนไปถึงกลุ่ม Laggards นั่นคือ ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่สามารถยอมรับนวัตกรรมใหม่ได้ ด้วยทั้งความลังเล สงสัย ไม่ไว้ใจ หรือกระทั่งมีความเป็นอนุรักษ์นิยมสูง ซึ่งมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป

แล้วทำอย่างไรจึงจะไม่ตกเป็นเหยื่อ?

สิ่งหนึ่งที่เราต้องยอมรับความจริง นั่นคือ โลกใบนี้จะไม่มีการหมุนย้อนกลับหลัง ทิศทางของนวัตกรรมจะยังคงดำเนินต่อไป และสิ่งใหม่พร้อมแทนที่สิ่งเก่าเสมอ ดังนั้นเราต้องหมั่นเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา

ทิศทางของโลกการเงินกำลังหมุนเร็วขึ้น มีบริการทางการเงิน ในรูปแบบใหม่ ประชาชนสามารถเข้าถึงเงินได้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น ตรงตามต้องการ และเป็นจริงอยู่เสมอ ที่เรียกว่า Financial Inclusion

ในโลกดิจิทัล สิ่งสำคัญที่สุดของการดูแลข้อมูลส่วนตัวขั้นพื้นฐาน นั่นคือ Username และ Password (บัญชีผู้ใช้และรหัสผ่าน) ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากในการทำธุรกรรมทางการเงิน สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดเปรียบเสมือน “กุญแจบ้าน” และมิจฉาชีพจะทำทุกทางเพื่อให้ได้กุญแจบ้านของท่าน

วิธีป้องกันการถูกขโมยกุญแจบ้าน

  • อย่างตั้งรหัสให้ง่ายเกินไป เช่น ชื่อเล่น, ตัวเลขเรียง 123456, วันเกิด, เบอร์โทรศัพท์, เลขบัตรประชาชนเหล่านี้ ไม่ควรนำมาตั้งเป็นรหัสผ่านอย่างยิ่ง
  • อย่ากดลิงค์แปลกๆ ที่ไม่คุ้นเคยในทุกช่องทาง เช่น SMS, LINE, Facebook โดยมิจฉาชีพจะยั่วยวนท่านโดยการส่งข้อความ ยกตัวอย่างเช่น “คุณมีสิทธิ์กู้เงิน 50,000 บาท ผ่านระบบ KBANK คลิ๊กที่ Link เพื่อรับสิทธิ์ทันที : https://bit.ly/xTyc” หรือ “คุณมียอดค้างชำระบัตรเครดิต 120,000 บาทโปรดคลิ๊ก Link เพื่อชำระเงิน” หรือ “มือถือของคุณมีความร้อนสะสม โปรดติดตั้งแอพของเราเพื่อดูแลทำความสะอาด”
  • หลีกเลี่ยงการทำสำเนาต่างๆ ไว้ในโทรศัพท์ เช่น บัตรประชาชน, บัตร ATM (โดยเฉพาะบัตรที่เป็น Debit Card), บัญชีธนาคาร
  • สุดท้ายอาจเป็นเรื่องของ Sense ยกตัวอย่างเช่น ท่านไม่เคย ทำธุรกรรมกับธนาคารกรุงเทพ แต่มีบุคคลอ้างตนว่าเป็น เจ้าหน้าที่จากธนาคารกรุงเทพมาติดต่อท่าน ก็น่าจะเป็นเรื่อง ที่ผิดปกติ หรือ หากมีบุคคลแจ้งว่าท่านมีพัสดุค้างรับ แต่ท่าน ไม่ได้สั่งสินค้าใดๆ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ผิดปกติเช่นกัน

การ Hack ไม่ได้ทำกันโดยง่าย และผู้ที่เป็น Hacker จริงๆ ล้วนมีต้นทุนที่ต้องจ่ายให้กับทรัพยากรในการ Hack ถ้าเราไม่เปิดประตูรับโจรเข้าบ้านแล้วปั๊มกุญแจให้โจร มีโอกาสเป็นไปได้ยากมาก ที่ท่านจะโดนโจรกรรมข้อมูล ระบบรักษาความปลอดภัยของสถาบันการเงินนั้น จะมีการเข้ารหัสให้กับสมาชิกอยู่แล้ว ซึ่งเป็นความปลอดภัยที่เพียงพอ โดยสะพานเชื่อมต่อข้อมูลที่เราใช้จะเป็นของธนาคารกรุงไทย ทำให้เชื่อใจได้ว่ามีความปลอดภัยแน่นอน

อย่าตื่นตระหนกและจงมีสติตลอดเวลา เพื่อรักษาสวัสดิภาพ ทางข้อมูลของท่านให้ปลอดภัย

Posted by น้าหนวดไอที in นานาสาระ, เทคโนโลยี